เนื่องจากปัจจุบันการเก็บข้อมูลมีความสำคัญอย่างมาก มีหลายวิธีที่จะจัดเก็บข้อมูลได้ การเก็บข้อมูลแต่ละวิธีได้มีการพัฒนา เพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้น โดยลดต้นทุนการผลิต พื้นที่ในการจัดเก็บ เวลาในการอ่าน และจัดเก็บให้น้อยลง รวมถึงความสะดวกและความปลอดภัยต่อตัวข้อมูลและเจ้าของข้อมูล เทคโนโลยีการเก็บข้อมูลจึงก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีอัตราความต้องการสูงขึ้นเรื่อยๆ
อุปกรณ์การเก็บข้อมูลมีหลายประเภท เช่น
ฮาร์ดดิสค์ อุปกรณ์เก็บข้อมูลที่พื้นฐานมากๆ เราสามารถทำการแบ่งฮาร์ดดิสก์ 1 ตัวให้เป็นหลาย ๆ ไดร์ฟได้ เช่น ฮาร์ดดิสก์ 1 ตัวแต่ถูกแบ่งออกเป็น Drive C: และ Drive D: โดยที่ซีดีรอม ก็จะกำหนดให้เป็น Drive E: แทนเป็นต้น
อุปกรณ์การเก็บข้อมูลมีหลายประเภท เช่น
ฮาร์ดดิสค์ อุปกรณ์เก็บข้อมูลที่พื้นฐานมากๆ เราสามารถทำการแบ่งฮาร์ดดิสก์ 1 ตัวให้เป็นหลาย ๆ ไดร์ฟได้ เช่น ฮาร์ดดิสก์ 1 ตัวแต่ถูกแบ่งออกเป็น Drive C: และ Drive D: โดยที่ซีดีรอม ก็จะกำหนดให้เป็น Drive E: แทนเป็นต้น
แฟลชไดรว์ เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่เป็นที่นิยมกันในปัจจุบัน หลังจากเมื่อหลายปีที่แล้วได้ ผลิดแฟลชไดรว์ความจุ 8GB มาแล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการพัฒนาความจุสูงถึง 32 - 64 GB และคาดการณ์ไว้ในช่วงปี 2009 จะทะลุถึง 128 GB (มากกว่าฮาร์ดิสบางรุ่นเสียอีก) ซึ่งไม่แน่ แฟลชไดรว์ในอนาคตอาจจะมาแทนที่ฮาร์ดดิสก็เป็นได้ เนื่องจากความเร็วสูงที่จะพัฒนาใน USB 3.0 การที่เป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีการเคลื่อนของตัวบันทึกหรือหัวอ่าน ทำให้ไม่เสียง่ายๆ แต่เมื่อไม่นานมานี้ หลายๆบริษัทได้ออกจำหน่าย แฟลชไดรว์ตามท้องตลาดอย่างเป็นทางการด้วยความจุ 16 GB แล้ว ราคาก็ตกอยู่ประมาณ 1000 - 10000 บาท ใครสนใจก็หามาเป็นเจ้าของได้แล้วนะครับ


Flash Drive ที่สามารถถ่ายรูปได้ในตัว
แผ่นซีดี ดีวีดี เป็นการเก็บข้อมูลโดยใช้คุณสมบัติทางแสง ไม่ว่าจะเป็นแผ่น CD-R, CD-RW, DVD, DVD-RW ก็ใช้หลักการคล้ายๆกัน โดยใช้แสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเหมาะสม ยิงไปยังแผ่น ที่จะเขียน แสงนั้นก็จะไปทำให้เกิดเป็น lands หรือ pits ตามข้อมูลที่ต้องการเขียน ซึ่งส่วนที่เป็น lands และ pits จะทำหน้าที่ สะท้อน และดูดกลืนแสงที่แตกต่างกัน เราจึงสามารถถือได้ว่าคุณสมบัติที่ต่างกันทั้ง 2 ลักษณะนี้แปลง เป็นสัญญาณดิจิตอล คือ เป็น 0 กับ 1 ที่ใช้แทนข้อมูลในการบันทึกและอ่านได้
แผ่น DVD ที่มีส่วนผสมของข้าวโพด
ชิพการ์ด อุปกรณ์เก็บข้อมูลที่มีขนาดเล็กมีการประมวลผลได้อย่างชาญฉลาด ที่เรียกว่า "ชิพ" เป็นการฝังชิพคอมพิวเตอร์ (Computer Chip) ไว้ภายในบัตรโดยที่ตัวชิพดังกล่าวนี้ ภายในบรรจุข้อมูลต่างๆ ไว้ในรูปแบบทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วยกรรมวิธีที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างดีเยี่ยม

ตัวอย่างชิพการ์ดในบัตร
การเก็บข้อมูลแบบออนไลน์ ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงไฟล์ข้อมูล, รูปภาพ, เพลง ได้จากทุกแห่ง พร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัย วิธีใช้ก็คือต้องติดตั้งโปรแกรมจากเวบไซต์ผู้ให้บริการ เมื่อติดตั้งเสร็จ ก็จะเสมือนว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณมีฮาร์ดดิสก์เพิ่มขึ้นมาอีก 1 ตัว ในที่นี่ขอยกตัวอย่างเป็นผู้ให้บริการที่ชื่อว่า Xdrive เจ้านี้จะให้ทดลองใช้บริการฟรี 15 วัน พื้นที่ในการเก็บข้อมูล 5 GB สามารถเข้าถึงไฟล์ได้จากทุกที่
หน้าตาของโปรแกรม Xdrive
จะเห็นได้ว่าเทดโนโลยีการเก็บข้อมูลก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วไม่แพ้นวัตกรรมด้านอื่นๆ อาจจะถือได้ว่าเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันก็ว่าได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน แต่อย่างไรก็ตามถ้าใช้ในด้านที่ดีมันก็จะเกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ในทางกลับกันมันอาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นและตนเองเช่นกัน.