วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2551

ความสำเร็จของสำนักงานแห่งการเรียนรู้

ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความคิดและพฤติกรรมซึ่งมีผลต่อการพัฒนาปรับตัวเพื่อความอยู่รอด มีองค์ประกอบสำคัญของการก้าวสู่ความสำเร็จของสำนักงานแห่งการเรียนรู้อยู่ 6 ประการได้แก่
1. ภาวะผู้นำ (Leadership) โดยการสร้างผู้นำที่มีบทบาทสำคัญ 3 ประการ คือ

  • การสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกัน (Shared Vision)
  • การออกแบบโครงสร้าง (Design Structure)
  • ภาวะผู้นำแบบผู้รับใช้ (Servant Leadership)

2. โครงสร้างแนวนอน/เครือข่าย (Horizontal /Network Structure)
3. การมอบอำนาจให้พนักงาน (Employee Empowerment)
4. การแบ่งปันข้อมูล (Information Sharing)
5. การกำหนดกลยุทธ์ (Emergent Strategy)
6. วัฒนธรรมที่เข้มแข็ง (Strong Culture)


การบริหารสำนักงานในอนาคตผู้บริหารควรพิจารณาประเด็นสำคัญดังนี้
1. การเตรียมตัวเพื่อการเปลี่ยนแปลง ผู้บริหารต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกดขึ้น แล้วปรับตัวตามเงื่อนไขหรือสถานการณ์ ซึ่งอาจเป็นการปรับปรุงระบบเพื่อคุณภาพ หรือการปรับปรุงขนาดใหญ่แบบรีเอ็นจีเนียริง สิ่งที่ควรให้ความสนใจคือ

  • มีการสั่งการและยอมรับจากผู้บริหารระดับสูง
  • มีการกำหนดขอบเขตการเปลี่ยนแปลง
  • กำหนดมาตรฐานในการวัดผล
  • เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เปลี่ยนแปลงได้
  • กำจัดความกลัวและลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด
  • เน้นในประเด็นที่มีคุณค่ามากกว่าผลการปฏิบัติงาน

2. สร้างองค์การใหม่ โดยกำหนดเป้าหมายการสร้างวงจร บริการ กำไร ซึ่งจะก่อให้เกิดความพอใจต่อลูกค้าและพนักงานในสำนักงาน
3. การออกแบบองค์การในทางปฏิบัติ ใช้การออกแบบและพัฒนาปรับปรุงมาช่วย สิ่งที่ต้องคำนึงในการออกแบบคือ สายการบังคับบัญชา กระบวนการตัดสินใจ ทีม และพนักงาน โครงสร้างและกลยุทธ์ ทั้งนี้ควรพิจารณาถึงการแข่งขันใหม่ๆในโลกแบบใหม่ และปรับตัวในทางปฏิบัติ
การทำงานและการจัดองค์การเกิดการสร้างแบบจำลองใหม่ สำหรับการทำงานและการจัดองค์การสำนักงานในอนาคต ดังนี้
1. องค์การแบบวงกลม การทำงานและสื่อสารทุกทิศทุกทาง ด้วยระบบเครือข่าย
2. จัดโครงสร้างและการทำงานใหม่ โดยคำนึง

  • โครงสร้างอำนาจหรือพลัง
  • โครงสร้างทางการเงิน
  • ความเชื่อมโยงทางการศึกษา
  • อัตราผลตอบแทนและความเสมอภาค
  • แผนการเกษียณอายุการทำ

3. สร้างภาวะการเป็นผู้นำ และผู้บริหารสำนักงานแบบใหม่
4. จัดการติดต่อสื่อสารด้วยระบบที่มีประสิทธิผล รวมทั้งสร้างให้เกิด Empowerment
5. จัดขอบเขตองค์การใหม่
6. สร้างการเรียนรู้ในองค์การให้มีความรวดเร็วและประสิทธิภาพสูงขึ้น

การบริหารทรัพยากรมนุษย์

คุณลักษณะของสำนักงานในอนาคต คือ สัญญาสังคมของอนาคตที่มีไว้กระตุ้นจูงใจพนักงานในการทำงาน สิ่งที่ควรพิจารณาในประเด็นนี้ ได้แก่
1. เป็นการลงทุนครั้งใหม่ในทรัพยากรมนุษย์
2. ใช้เครื่องมือการจูงใจใหม่
3. มีการพัฒนาและธำรงรักษาไว้อย่างดีที่สุด
4. สร้างความสำเร็จที่มนุษย์มุ่งหวังให้เกิดขึ้น (Selt – Esteem) โดยใช้หลักการของ 7 R’s

  • ความนับถือ (Respect )
  • ความรับผิดชอบ (Responsibility)
  • ความยอมรับในความเสี่ยง (Risk – Taking)
  • รางวัลและการรับรู้ (Rewards and Recognition)
  • ความสัมพันธ์ (Relationship)
  • บทบาท (Role)
  • การปรับใหม่ (Renewal)

5. สร้างสถานการณ์ความเป็นผู้นำในสำนักงานให้มีหลากหลายรูปแบบ
6. มีการเรียนเพื่อพัฒนาตนเอง


สภาพแวดล้อมในการทำงาน
1. สร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นกับชีวิตการทำงานภายในสำนักงาน
2. สร้างองค์การที่มีสุขภาพ (Healthy Organization) ประกอบด้วย

  • มีระบบดีและชัดเจน
  • มีการติดต่อสื่อสารระบบเปิด
  • มีการทำงานเป็นทีม
  • นโยบายสะท้อนความต้องการและการทำงาน
  • มีความหลากหลายและสามารถจัดการจนเกิดความเป็นหนึ่งเดียวได้
  • ต้องเกิดขึ้นในระยะยาว

3. ผลิตผลลัพธ์ทางสังคมโดยคำนึงถึงความคาดหวังทางสังคม.

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551

การรีเอ็นจิเนียริ่งสำนักงาน

ความว่า การพิจารณาหลักการพื้นฐานของกระบวนการทางธุรกิจ และการออกแบบขึ้นใหม่อย่างถอนรากถอนโคน เพื่อมุ่งบรรลุผลลัพธ์ของการปรับปรุงอันยิ่งใหญ่ โดยใช้มาตรวัดผลการปฏิบัติงานที่ทันสมัย และที่สำคัญได้แก่ ต้นทุน คุณภาพ การบริการ และความรวดเร็ว กิจกรรมหรือเทคนิคที่เน้นการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ ๆ และการมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล โดยเฉพาะใช้กับธุรกิจที่มีการบริการมาก ๆ เช่น การธนาคาร หรือถ้าเกี่ยวกับการผลิต การปรับรื้อหมายถึง การเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตใหม่ ๆ ระบบนี้จึงใช้ในธุรกิจบริการมากกว่า เทคนิคนี้เน้นการทำงานเพื่อให้ถูกต้องตามเป้าหมายที่แท้จริงหรือแก่นแท้ของเหตุผลของงานนั้น ๆ โดยการเขียนแผนผังกระบวนการ แล้วพิจารณาโดยการระดมสมอง สัมภาษณ์ เลียนแบบ ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ เพื่อปรับรื้อกระบวนการทำงาน


โดยมีคำศัพท์หลักที่สำคัญ ดังนี้

  • พื้นฐาน (Fundamental) คำศัพท์หลักคำนี้เป็นคำถามพื้นฐานที่สุดและเป็นหัวใจสำคัญในการทำรีเอ็นจิเนียริ่ง ซึ่งธุรกิจหรือองค์การจะต้องพิจารณาถึงพื้นฐาน สมมุติฐาน หรือกฎเกณฑ์ที่รองรับการดำเนินธุรกิจ และแฝงเร้นอยู่ในแนวทางปฏิบัติที่กำหนดขึ้นในการดำเนินงานหรือการดำเนินธุรกิจ โดยทั่วไป มักช่วยให้องค์การพิจารณาได้ว่าสมมุติฐานหรือกฎเกณฑ์นั้นผิดพลาด ไม่เหมาะสมหรือล้าสมัย ทั้งนี้ โดยการตั้งคำถามว่า “ทำไมเราจึงทำแบบนี้ ? ” , “ ทำไมเราจึงต้องทำอย่างที่เรากำลังทำอยู่ ? ” หรือ “ เราต้องทำอะไร หรือเราจะทำอย่างไร เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ? ” เป็นต้น
  • ถอนรากถอนโคน เป็นศัพท์ที่แผลงมาจากภาษาลาตินว่า Radix ซึ่งหมายถึง ราก การคิดหรือการออกแบบใหม่อย่างถอนรากถอนโคน หมายถึง การมุ่งที่รากแก้วของสิ่งทั้งหลาย ซึ่งไม่ใช่เพียงการปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเพียงผิวเผิน แต่เป็นการทิ้งของเดิมไปทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง หรือการออกแบบใหม่บนพื้นฐาน สมมุติฐาน หลักการ หรือกฎเกณฑ์ใหม่ทั้งหมด
  • ยิ่งใหญ่ (Dramatic) คำศัพท์หลัก “ยิ่งใหญ่” หรือ “ใหญ่หลวง” ในที่นี้ เป็นการเน้นย้ำว่า การทำรีเอ็นจิเนียริ่งมุ่งสู่การกระทำที่จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ของการทำงานที่ก้าวกระโดด หรือการบรรลุผลอันยิ่งใหญ่มโหฬาร เพราะความต้องการบรรลุเป้าหมายเพิ่มขึ้น การเพิ่มผลงาน หรือคุณภาพของผลงานเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่จำเป็นต้องอาศัยการทำรีเอ็นจิเนียริ่ง เพียงใช้วิธีการปรับปรุง แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยก็น่าจะเพียงพอแล้ว
  • กระบวนการ (Process) คำว่ากระบวนการ นับเป็นคำศัพท์หลักที่สำคัญอีกคำหนึ่ง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสับสนหรือยุ่งยากสำหรับการทำรีเอ็นจิเนียริ่งอีกคำหนึ่ง เนื่องจากผู้บริหารหรือผู้อยู่ในแวดวงธุรกิจมักไม่ได้ให้ความสนใจกับ “กระบวนการ” ในระยะที่ผ่านมา มักมุ่งที่ตัวงาน เนื้องาน โครงสร้าง หรือตัวบุคคลผู้ปฏิบัติงานมากกว่า

กระบวนการ” คือ กลุ่มของกิจกรรม ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมที่หนึ่ง หรือในกิจกรรมของการนำปัจจัยนำเข้า และกิจกรรมอื่น ๆ ตามลำดับ จนถึงกิจกรรมสุดท้ายที่เกิดเป็นผลลัพธ์หรือการได้รับปัจจัยนำออกที่มีคุณค่าเพิ่มขึ้น ตามแนวคิดของ อดัม สมิธ การดำเนินธุรกิจหรือการทำงานมักถูกแบ่งเป็นงานย่อย ๆ ที่ง่ายที่สุด เพื่อมอบหมายให้กับผู้ปฏิบัติงานที่เป็นผู้ชำนาญการเฉพาะด้าน ซึ่งเป็นผลให้ผู้ปฏิบัติงานในแต่ละงานมองไม่เห็นวัตถุประสงค์ที่ยิ่งใหญ่กว่าหรือละเลยผลลัพธ์สุดท้ายของการทำงานที่ต้องการอย่างแท้จริง แต่กลับมุ่งพิจารณาหรือให้ความสนใจอยู่กับแต่ละงานย่อยของกระบวนการดำเนินธุรกิจหรือกระบวนการดำเนินงานเท่านั้น


ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความสำเร็จในการทำรีเอ็นจิเนียริ่ง

  1. ใช้กลยุทธ์เป็นตัวนำ
  2. ต้องอาศัยริเริ่มและการบังคับบัญชา โดยผู้บริหารระดับสูง เพราะการรีเอ็นจิเนียริ่ง เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานหลายหน่วยงาน
  3. สร้างบรรยากาศของความเร่งด่วน
  4. การออกแบบกระบวนการจากภายนอก เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งเป็นปัจจัยนำไปสู่ความสำเร็จ
  5. การดำเนินการกับที่ปรึกษา ควรให้เข้ามาร่วมงานตั้งแต่ต้นจนจบ ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญในองค์การเพื่อถ่ายทอดให้ถึงระดับล่าง
  6. การผนวกกิจกรรมของระดับบนสู่ระดับล่างกับกิจกรรมของระดับล่างขึ้นสู่ระดับบนเข้าด้วยกัน
การทำรีเอ็นจิเนียริ่ง
  1. กำหนดสิ่งที่องค์การจำเป็นต้องทำ
  2. สร้างสิ่งที่เป็นแบบจำลองของการบริหารงาน ซึ่งก็คือ การกำหนดวิสัยทัศน์ (Vision) ที่ค่อนข้างจะเป็นไปได้ในอนาคต และมีความชัดเจน
  3. ชี้ให้เห็นถึงกระบวนการหลักของการบริหารองค์การ ไม่ควรสร้างผังงานของกระบวนการปัจจุบันเพียงแต่มองและพิจารณาเท่านั้น
  4. ออกแบบกระบวนการใหม่
  5. การนำกระบวนการใหม่ไปปฏิบัติอย่างจริงจัง

กรณีศึกษา : การไฟฟ้านครหลวง

กฟน.จัดโครงการนำร่องรีเอ็นจิเนียริ่ง ลดเวลารอชำระค่าไฟลง 5 เท่าตัว

ม.ร.ว.จิยากร เสสะเวช ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ การไฟฟ้านครหลวง เปิดเผยว่า กฟน. ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา เข้ามาศึกษา จัดทำแผนปรับปรุงประสิทธิภาพและพัฒนาองค์กรโดยเน้นศึกษาระบบ BPR [Business Process Reengineering]เพื่อรองรับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในอนาคตขณะนี้ผลการศึกษาและการจัดทำโครงการนำร่องได้แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย

“ ที่ปรึกษาได้เข้ามาศึกษาข้อมูลใน กฟน.และ ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนามากมาย เช่น การเสนอแนะกลยุทธ์การดำเนินงานในช่วงปี พ.ศ.2545 — 2549 , การพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ , โครงสร้างองค์กร , การพัฒนาบุคลากร และการจัดทำโครงการนำร่อง ( Pilot Project ) “ ม.ร.ว.จิยากร กล่าวว่า โดยเฉพาะโครงการนำร่องที่จัดทำขึ้นนั้น กฟน.ได้เลือกดำเนินการ โครงการรับชำระค่าไฟฟ้า ณ การไฟฟ้าเขตสามเสน ซึ่งในแต่ละวัน เฉลี่ยแล้วมีผู้ใช้ไฟฟ้ามาชำระค่าไฟฟ้า ณ การไฟฟ้าเขตไม่ต่ำกว่าเขตละ 1,000 ราย จากสถิติการชำระค่าไฟฟ้าในชั่วโมงเร่งด่วน ระหว่าง 11.45 — 13.00 น. พบว่าจะเป็นช่วงที่ผู้ใช้ไฟฟ้ามาใช้บริการมากที่สุด และเป็นช่วงเวลาที่ผู้ใช้ไฟฟ้ารอชำระค่าไฟฟ้านานที่สุดด้วยเช่นกัน นานที่สุดเท่ารายละ 50 นาที ยอดเฉลี่ยรายละ 30 นาที โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะลดระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้าลงให้เหลือไม่เกิน 10 นามีต่อรายในชั่วโมงเร่งด่วน บริษัทที่ปรึกษาร่วมกับฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศของการไฟฟ้านครหลวง ได้จัดระบบคิวและระบบคอมพิวเตอร์ใหม่ทั้งหมด และได้ทดลองระบบใหม่นี้ตั้งแต่เดือนธันวาคม ปีที่แล้ว ขณะนี้ ผลการดำเนินการพบว่า สามารถลดระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้าในชั่วโมงเร่งด่วนลงได้เหลือประมาณรายละ 6 นาที ซึ่งดีว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้มาก คาดว่าหลังจากสรุปผลและปัญหา ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว จะขยายผลนำไปใช้ในทุกการไฟฟ้าเขต เชื่อว่าจะทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าพึงพอใจมากยิ่งขึ้น ม.ร.ว.จิยากร กล่าวในตอนท้าย อนึ่ง นโยบายของรัฐบาลกำหนดไว้ชัดเจนว่า รัฐวิสาหกิจจะต้องมีการแปรรูปหรือ ปรับปรุงประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงตามประแสโลก และจากผลการวิจัยทั่วโลกพบว่า องค์กรที่นำ ระบบ BPR [Business Process Reengineering] เข้ามาใช้ จะสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายและรวดเร็วกว่า ด้วยเหตุนี้ กฟน.จึงได้ว่าจ้างทีมที่ปรึกษา ได้แก่ บริษัท Diebold จากประเทศเยอรมนี บริษัท T.N Information System Ltd. ร่วมกับคณาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ ( นิด้า) เข้ามาศึกษาเพื่อนำระบบ BPR มาใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพและเป็นแนวทางพัฒนาองค์กร การ Reengineering หรือการปรับกระบวนการทำงานของการไฟฟ้านครหลวง มี เป้าหมายเพื่อสร้างความพึงพอใจให้ผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก โดยมีผลพลอยได้คือลดความซ้ำซ้อนของกระบวนการทำงาน ลดเวลาและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

Thank You to oneคับป๋ม (http://www.pantown.com/), sureeporn-suriyawich (http://www.itie.org/), www.ryt9.com

วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2551

'ฟ้าทะลายโจร' ยาสมุนไพรบรรเทาอาการหวัด

ช่วงนี้ประเทศไทยในหลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดนั้นมีฝนตกแทบทุกวัน ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เผชิญกับปัญหาต่างๆ ในการดำรงชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการจราจรติดขัดในการเดินทางไปทำงานแต่ละวันหรือปัญหาป่วยเป็นไข้หวัด สำหรับปัญหาไข้หวัดนั้นจะพบมากในช่วงที่มีฝนตกชุกโดยเฉพาะเด็กๆ เพราะนิสัยของเด็กมักจะชอบออกมาเล่นน้ำฝน ไข้หวัดนั้นเป็นโรคติดต่อกันง่ายมาก

คนไทยส่วนจะนิยมนำสมุนไพรที่มีชื่อว่า "ฟ้าทะลายโจร" ในการบรรเทาอาการไข้หวัด สำหรับฟ้าทะลายโจร เป็นที่รู้จักตั้งแต่สมัยโบราณและได้รับการยอมรับเป็นสมุนไพรแห่งปี ในปัจจุบันมีการนำฟ้าทะลายโจรมาทำเป็นยาลูกกลอน หรือใส่แคปซูลเพื่อความสะดวกในการกิน ขณะนี้ต้นฟ้าทะลายโจรได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในประเทศไทย มีผู้ทำการศึกษาค้นคว้าวิจัยถึงสรรพคุณยา และได้พบสารเคมีในส่วนต่างๆ ของพืชอยู่หลายชนิด รวมทั้งสาร Andrographolide ที่เป็นตัวยาสำคัญที่มีอยู่ในทุกส่วนคือ ราก ต้น ใบของฟ้าทะลายโจร และได้ทำการศึกษาทดลองเพื่อจำแนกโรคที่รักษาได้ดีให้ชัดเจน ซึ่งพบว่าฟ้าทะลายโจรรักษาโรคเหล่านี้ได้คือ แก้ติดเชื้อทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย บิด และแก้กระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ แก้อาการไอ เจ็บคอ หรือคออักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ หลอดลมอักเสบ แก้ไข้ทั่วไป เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ เป็นยาขมเจริญอาหาร เป็นต้น สมุนไพรฟ้าทะลายโจร ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าเป็นสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการหวัด และเสริมภูมิต้านทานดีกว่าการใช้ยาปฏิชีวนะในคนที่เป็นหวัดบ่อยๆ ร้อนในบ่อยๆ เนื่องจากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ภูมิต้านทานอ่อนลง การรับประทานสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้ไม่เป็นหวัดง่าย ร้อนในจะหายไป และสมุนไพรฟ้าทะลายโจรดีกว่ายาปฏิชีวนะ ตรงที่ไม่เกิดการง่วงนอน ไม่เกิดการดื้อยา และยังป้องกันตับจากสารพิษหลายชนิด เช่น จากยาแก้ไข้พาราเซตามอล หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม

ฟ้าทะลายโจร

ชื่อพื้นเมืองอื่นๆ : ฟ้าทะลาย, น้ำลายพังพอน, ยากันงู, ฟ้าลาง, เมฆทะลาย, ฟ้าสะท้าน, สามสิบดี, ดีปังฮี (จีน)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Andrographis paniculata (Burm) Nees

จัดอยู่ในวงศ์ : Acanthaceae

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

เป็นไม้ล้มลุกสูง 1-2 ศอก ลำต้นสี่เหลี่ยมตั้งตรง แตกกิ่งก้านสาขามากมาย ใบเรียวกว้างประมาณ 1 ซ.ม. ดอกออกเป็นช่อเล็กๆ สีขาว มีรอบประสีม่วงแดง กลีบดอกด้านบนมี 3 หยัก ด้านล่างมี 2 หยัก ผลเป็นฝักคล้ายฝักต้อยติ่ง เมล็ดสีน้ำตาลอ่อน ต้นและใบมีรสขมมาก ส่วนที่ใช้เป็นยาคือ ราก ใบ ทั้งต้น

การปลูก

ใช้เมล็ดโรยลงดิน กลบดินไม่ต้องลึกแล้วรดน้ำให้ชุ่ม มักนิยมปลูกตอนต้นฤดูฝน ไม่ชอบแดดจัดมาก หากอยู่ในที่แจ้งต้นจะเตี้ยใบเล็กหนา และในที่ร่มต้นจะสูง ใบใหญ่แต่บาง ควรปลูกในที่ไม่ร่มและไม่แจ้งนัก ในฤดูฝนไม่จำเป็นต้องรดน้ำ แต่ในฤดูแล้งควรรดน้ำให้ดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ ถ้าปลูกขึ้นได้หนึ่งต้นจนมีฝักแก่ เมล็ดจะกระจายออกไปขึ้นทั่วจนต้องถอนทิ้งบ้าง

ประโยชน์ในการรักษา

1. ใช้รักษาอาการเจ็บคอ
2. ใช้แก้อาการท้องเสีย และโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน
3. บรรเทาอาการหวัดและเสริมภูมิต้านทาน ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นหายจากหวัด ภูมิแพ้ที่มักเป็นบ่อยๆ ให้หายเร็วขึ้น
4. ใช้เป็นยาภายนอกเป็นยาพอกฝี รักษาแผลที่เป็นหนอง




วิธีการนำไปใช้

1. ใช้ในรูปยาต้ม โดยใช้ใบและกิ่งสดล้างสะอาด สับเป็นท่อนสั้นๆ ประมาณ 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 10-15 นาที ดื่มก่อนอาหารวันละ 3 ครั้งแก้เจ็บคอ ใช้แก้ท้องเสีย แก้บิด ใช้ 2-3 กำมือ

2. ใช้ในรูปยาลูกกลอน โดยนำใบและกิ่งมาล้างให้สะอาดผึ่งลมให้แห้ง บดให้เป็นผง ปั้นผสมกับน้ำผึ้งเป็นเม็ดขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย ผึ่งให้แห้ง รับประทานครั้งละ 3-6 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน

3. ใช้ในรูปยาแคปซูล โดยใช้ผงใบและลำต้นบรรจุลงในแคปซูล ใช้รับประทานก่อนอาหารและก่อนนอน เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีรสขมมาก จึงนิยมใช้ในรูปยาลูกกลอนและรูปยาแคปซูล ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรจำหน่ายในรูปยาแคปซูล

4. ใช้ในรูปยาดองเหล้า นำใบฟ้าทะลายโจรแห้งขยำให้เป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ในขวดแก้ว แช่ด้วยเหล้าโรงพอท่วมยา ปิดฝาให้แน่น เขย่าขวดหรือคนยาวันละครั้ง เมื่อครบ 7 วัน กรองเอาแต่น้ำเก็บไว้ในขวดที่มิดชิดและสะอาด รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ วันละ 3-4 ครั้งก่อนอาหาร

5. ใช้ใบค่อนข้างแก่ประมาณ 1 กำมือ ตำผสมเกลือเล็กน้อย เติมเหล้าครึ่งถ้วยยา น้ำครึ่งช้อนชา คนให้เข้ากันดี รินเอาน้ำดื่ม กากที่เหลือใช้พอกแผล-ฝี แล้วใช้ผ้าสะอาดพันไว้

ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรที่สำคัญคือ ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่มีความดันต่ำและมีอาการท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย บางคนเมื่อกินยาฟ้าทะลายโจรแล้วมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย เวียนหัว หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ซึ่งควรหยุดยาทันที ไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานเกินไป เนื่องจากฟ้าทะลายโจรจะทำลายจุลินทรีย์ที่อยู่ในกระเพาะอาหารมากเกินไป

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เทคโนโลยีการเก็บข้อมูล

เนื่องจากปัจจุบันการเก็บข้อมูลมีความสำคัญอย่างมาก มีหลายวิธีที่จะจัดเก็บข้อมูลได้ การเก็บข้อมูลแต่ละวิธีได้มีการพัฒนา เพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้น โดยลดต้นทุนการผลิต พื้นที่ในการจัดเก็บ เวลาในการอ่าน และจัดเก็บให้น้อยลง รวมถึงความสะดวกและความปลอดภัยต่อตัวข้อมูลและเจ้าของข้อมูล เทคโนโลยีการเก็บข้อมูลจึงก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีอัตราความต้องการสูงขึ้นเรื่อยๆ
อุปกรณ์การเก็บข้อมูลมีหลายประเภท เช่น
ฮาร์ดดิสค์ อุปกรณ์เก็บข้อมูลที่พื้นฐานมากๆ เราสามารถทำการแบ่งฮาร์ดดิสก์ 1 ตัวให้เป็นหลาย ๆ ไดร์ฟได้ เช่น ฮาร์ดดิสก์ 1 ตัวแต่ถูกแบ่งออกเป็น Drive C: และ Drive D: โดยที่ซีดีรอม ก็จะกำหนดให้เป็น Drive E: แทนเป็นต้น

SATA-II 1000 GB Hitachi

แฟลชไดรว์ เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่เป็นที่นิยมกันในปัจจุบัน หลังจากเมื่อหลายปีที่แล้วได้ ผลิดแฟลชไดรว์ความจุ 8GB มาแล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการพัฒนาความจุสูงถึง 32 - 64 GB และคาดการณ์ไว้ในช่วงปี 2009 จะทะลุถึง 128 GB (มากกว่าฮาร์ดิสบางรุ่นเสียอีก) ซึ่งไม่แน่ แฟลชไดรว์ในอนาคตอาจจะมาแทนที่ฮาร์ดดิสก็เป็นได้ เนื่องจากความเร็วสูงที่จะพัฒนาใน USB 3.0 การที่เป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีการเคลื่อนของตัวบันทึกหรือหัวอ่าน ทำให้ไม่เสียง่ายๆ แต่เมื่อไม่นานมานี้ หลายๆบริษัทได้ออกจำหน่าย แฟลชไดรว์ตามท้องตลาดอย่างเป็นทางการด้วยความจุ 16 GB แล้ว ราคาก็ตกอยู่ประมาณ 1000 - 10000 บาท ใครสนใจก็หามาเป็นเจ้าของได้แล้วนะครับ

Flash Drive ที่สามารถถ่ายรูปได้ในตัว

แผ่นซีดี ดีวีดี เป็นการเก็บข้อมูลโดยใช้คุณสมบัติทางแสง ไม่ว่าจะเป็นแผ่น CD-R, CD-RW, DVD, DVD-RW ก็ใช้หลักการคล้ายๆกัน โดยใช้แสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเหมาะสม ยิงไปยังแผ่น ที่จะเขียน แสงนั้นก็จะไปทำให้เกิดเป็น lands หรือ pits ตามข้อมูลที่ต้องการเขียน ซึ่งส่วนที่เป็น lands และ pits จะทำหน้าที่ สะท้อน และดูดกลืนแสงที่แตกต่างกัน เราจึงสามารถถือได้ว่าคุณสมบัติที่ต่างกันทั้ง 2 ลักษณะนี้แปลง เป็นสัญญาณดิจิตอล คือ เป็น 0 กับ 1 ที่ใช้แทนข้อมูลในการบันทึกและอ่านได้

แผ่น DVD ที่มีส่วนผสมของข้าวโพด

ชิพการ์ด อุปกรณ์เก็บข้อมูลที่มีขนาดเล็กมีการประมวลผลได้อย่างชาญฉลาด ที่เรียกว่า "ชิพ" เป็นการฝังชิพคอมพิวเตอร์ (Computer Chip) ไว้ภายในบัตรโดยที่ตัวชิพดังกล่าวนี้ ภายในบรรจุข้อมูลต่างๆ ไว้ในรูปแบบทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วยกรรมวิธีที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างดีเยี่ยม

ตัวอย่างชิพการ์ดในบัตร

การเก็บข้อมูลแบบออนไลน์ ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงไฟล์ข้อมูล, รูปภาพ, เพลง ได้จากทุกแห่ง พร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัย วิธีใช้ก็คือต้องติดตั้งโปรแกรมจากเวบไซต์ผู้ให้บริการ เมื่อติดตั้งเสร็จ ก็จะเสมือนว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณมีฮาร์ดดิสก์เพิ่มขึ้นมาอีก 1 ตัว ในที่นี่ขอยกตัวอย่างเป็นผู้ให้บริการที่ชื่อว่า Xdrive เจ้านี้จะให้ทดลองใช้บริการฟรี 15 วัน พื้นที่ในการเก็บข้อมูล 5 GB สามารถเข้าถึงไฟล์ได้จากทุกที่

หน้าตาของโปรแกรม Xdrive

จะเห็นได้ว่าเทดโนโลยีการเก็บข้อมูลก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วไม่แพ้นวัตกรรมด้านอื่นๆ อาจจะถือได้ว่าเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันก็ว่าได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน แต่อย่างไรก็ตามถ้าใช้ในด้านที่ดีมันก็จะเกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ในทางกลับกันมันอาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นและตนเองเช่นกัน.


วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

หลักเกณฑ์การพิจารณาและการตัดสินใจในการนำระบบสำนักงานอัตโนมัติเข้ามาใช้

สรุปได้เป็นข้อๆ ดังนี้
  1. ต้องการความสะดวก ความคล่องตัวในการทำงาน
  2. ต้องการความรวดเร็ว นั่นคือ ให้การปฎิบัติงานมีความรวดเร็ว การให้บริการรวดเร็ว
  3. ต้องการสั่งผ่าน (การรับ - ส่ง) สารสนเทศภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง
  4. เพื่อลดปริมาณคนงาน
  5. เพื่อลดปริมาณงานทางด้านเอกสาร
  6. ต้องการความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน
  7. เพื่อที่จะสามารถรองรับการขยายตัวของสำนักงานต่อไปในอนาคต
  8. ความรวดเร็วในการนำไปใช้งาน สามารถให้ข้อมูลที่รวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ทันกับความต้องการ
  9. ความถูกต้อง ได้รับข้อมูลที่มีความถูกต้องมากยิ่งขึ้น
  10. ลดเวลาในการทำงาน ประหยัดเวลาในการดำเนินงาน
  11. ลดค่าใช้จ่าย ประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
  12. เพิ่มประสิทธิภาพ ในด้านการติดต่อสื่อสารข้อมูล
  13. เพิ่มประสิืทธิภาพด้านการติดต่อสื่อสารโดยการเพิ่มความสามารถในการใช้ประสาทสัมผัส
  14. ทางตาและหูไปพร้อมกัน
  15. ช่วยใ้ห้ิเกิดความเข้าใจและความจำสมบูรณ์ขึ้นพร้อมทั้งสื่อสารได้ไกลและกว้างยิ่งขึ้น
  16. ช่วยลดความจำเจซ้ำซากของงานลงได้ทำให้ไม่เบื่องาน

วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

องค์ประกอบของระบบสำนักงานอัตโนมัติ

งค์ประกอบของสำนักงานอัตโนมัติแบ่งเป็น 5 ประเด็น

  1. บุคลากร อาจแบ่งได้หลายกลุ่ม เช่น ผู้บริหาร นักวิชาชีพ นักเทคนิค เลขานุการ เสมียน และพนักงานอื่นๆ
  2. กระบวนการปฏิบัติงาน
  • การรับเอกสารและข้อมูล
  • การบันทึกเอกสารและข้อมูล
  • การสื่อสารเอกสารและข้อมูล
  • การจัดเตรียมข้อมูลข่าวสารต่างๆ
  • การกระจายข่าวสาร
  • การขยายรูปแบบเอกสาร
  • การค้นคืนและการจัดเก็บเอกสารข้อมูล
  • การกำจัดและการทำลายเอกสาร
  • การดูแลความมั่นคงปลอดภัย
  1. เอกสาร ข้อมูล สารสนเทศ
  2. เทคโนโลยี
  3. การบริหารจัดการ

โปรแกรมประยุกต์ด้านการจัดการสำนักงานอัตโนมัติ